วิธีดูแลตนเองเมื่อเป็นกรดไหลย้อน
“กรดไหลย้อนเป็นอาการที่พบได้มาก ผู้ที่เป็นกรดไหลย้อนจะมีอาการแสบร้อนบริเวณกลางอก เจ็บคอเรื้อรัง รู้สึกสำลักในตอนกลางคืน เรอบ่อย คลื่นไส้ มีความรู้สึกจุกแน่นในท้องและหน้าอก กรดไหลย้อนอาการแสดงคล้ายโรคกระเพาะ ทำให้ผู้ป่วยบางคนซื้อยารักษาโรคกะเพราะมากิน ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้อาการดีขึ้นเท่าไหร่นัก”
กรดไหลย้อนแม้ว่าดูเผินๆจะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่การปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆจนเกิดอาการเรื้อรัง จะก่อให้เกิดอาการทุกข์ทรมานแก่ผู้ป่วย และสามารถลุกลามทำให้เกิดอาการอื่นที่รุนแรงยิ่งขึ้น เช่นเกิดแผลที่ทางเดินอาหาร มีเลือดออก นานเข้าอาจจะทำให้หลอดอาหารตีบตันและเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้
การรักษาโรคกรดไหลย้อนต้องปรับพฤติกรรมในการรับประทานอาหาร และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพราะน้ำหนักที่มากเกินไปทำให้มีแรงดันในช่องท้องมาก ทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้ง่าย
- ปรับพฤติกรรมการกินอาหารให้ตรงเวลา ไม่ควรปล่อยให้ท้องว่าง ไม่ทานอาหารมื้อดึก และไม่รับประทานอาหารแล้วนอนทันที ควรรับประทานอาหารอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนจะเข้านอน
- งดอาหารหมักดอง ชา กาแฟ อาหารที่มีจัด เพราะจะยิ่งทำความระคายเคืองให้กับทางเดินอาหาร น้ำอัดลม จะทำให้ก๊าซในกระเพาะอาหารเพิ่มจำนวนขึ้น ทำให้อาการแสบร้อนในทางเดินอาหารยิ่งรุนแรง
- ถ้ามีอาการหนักมาก ให้รีบปรึกษาแพทย์เพื่อใช้ยาช่วยในการรักษา สำหรับบางรายที่เกิดกรดไหลย้อนจากความผิดปกติของหูรูดทางเดินอาหาร อาจจะต้องทำการผ่าตัดเพื่อรักษา
มีอาหารหลายชนิดที่สามารถช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนให้ดีขึ้นได้ และเป็นอาหารที่สามารถหาได้ง่ายในชีวิตประจำวัน อย่างเช่น กล้วย โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้า ที่มีคุณสมบัติช่วยสมานแผลในทางเดินและกระเพาะอาหาร ทำให้แผลในทางเดินอาหารดีขึ้น บรรเทาความแสบร้อนลง , ขมิ้น เป็นสมุนไพรที่ช่วยในการสมานแผล สามารถหาซื้อแคปซูลขมิ้นมารับประทานเพื่อความสะดวก,น้ำขิง ช่วยขับลม ทำให้อาการแน่นท้องลดลง ลดก๊าซในทางเดินอาหาร และยังช่วยรักษาอาการอักเสบได้ดีอีกด้วย
Write a comment: