“ผู้หญิง” อย่าหยุดสวย ไม่ว่าจะเป็นชนชาติไหนก็ตามก็ย่อมเป็นเช่นเดียวกัน เพราะเพศนี้เกิดมาเพื่อสร้างความงดงามให้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นยุคไหนสมัยไหนก็ตามการพัฒนา “นวัตกรรมความสวย” ของผู้หญิงก็มีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ กันอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว (จากตัวอย่างในคลิปวิดีโอ)
นวัตกรรมปฏิวัติโลกแห่งความงามของผู้หญิง – LANEIGE Thailand
จากที่พวกเราได้เคยให้ข้อมูลไว้ว่า ประเทศมีนโยบายที่จะก้าวเป็น “Cosmetic Hub หรือศูนย์กลางความงามของโลก” ให้ได้นั้น
(www.medego.com/th/article/10536) ตามข้อมูลที่ได้เก็บเกี่ยวมาฝากกันนั้นคำว่า “ศูนย์กลางความงาม” ก็คงจะหนีไม่พ้น นวัตกรรมความสวย หล่อของผู้หญิงและผู้ชายในยุคนี้ก็คือ “การทำศัลยกรรม” หากประเทศไทยจะก้าวไปสู่จุดนั้นจะต้องผ่านประเทศไทยไปบ้าง และประเทศที่จะเข้ามาเป็นคู่แข่งสำคัญและน่ากลัวของประเทศไทยของเรากันบ้าง ?
จากจำนวนผู้ที่ทำศัลยกรรมประมาณ 15 ล้านคนทั่วโลกโดยเบอร์หนึ่งของโลกก็เป็นไปตามคาด “ประเทศเกาหลี” ส่วนประเทศไทยก็ไม่ได้น้อยหน้าชาติไทย เข้าวินมาเป็นอันดับที่ 22 เหนือรัสเซีย จีน และอินเดีย (หากเทียบกันตามสัดส่วนประชากร) “อย่างไรก็ตาม จากนับกันตามจำนวนแล้ว สหรัฐฯ ยังเป็นชาติหมายเลข 1 ที่มีคนทำศัลยกรรมปรับแต่งรูปร่างหน้าตามากที่สุดในโลก ตามด้วยบราซิล จีน และญี่ปุ่น ส่วนเกาหลีใต้รั้งอันดับ 7”
และอาจจะหมายความได้ว่า คู่แข่งที่น่ากลัวจริงๆก็น่าจะมีประเทศอย่าง สหรัฐอเมริกา บราซิล จีน ญี่ปุ่น และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเกาหลีใต้ ทั้ง 5 ประเทศที่นี้แหละคิดว่าจะเป็นคู่แข่งที่มีโอกาสเข้ามาขัดขวาง “ประเทศไทยในการเป็นเจ้าแห่งความงามของโลก”
เกาหลีใต้
ประเทศที่เมื่อเทียบกันตามสัดส่วนแล้ว เป็นเบอร์หนึ่งในการทำศัลยกรรมของโลกเลยก็ว่าได้ แต่ก็คงไม่แปลกเพราะหากได้มีโอกาสเดินทางไปยังประเทศนี้ ไม่ว่าหันไปทางไหนก็จะพบแต่สาวๆหน้าตาหน้ารัก สวยงาม กันไปหมด จนมีบางกระแสที่เคยเหน็บสาวเกาหลีใต้ว่าแยกไม่ออกว่าใครเป็นใครเพราะหน้าตาเหมือนกันไปเสียหมด อีก การทำศัลยกรรมพลาสติกในเกาหลีใต้มีผู้หญิงมากถึง 20 เปอร์เซ็นเลยที่ผ่านมีดหมอ ตัวเลขนี้มากกว่าประเทศอันดับหนึ่งอย่าง อเมริกา ที่มีแค่ 10 เปอร์เซ็นเท่านั้นของประชากรหญิง
ญี่ปุ่น
ถ้าหากไม่มีตัวเลขจากทาง “สมาคมศัลยกรรมเสริมความงามนานาชาติ หรือ ISAPS” ก็แทบไม่น่าเชื่อว่าประเทศนี้มีการทำศัลยกรรมที่ไม่แพ้ประเทศอื่นๆกันเลย และสื่อญี่ปุ่นเองก็เคยเปรียบเทียบไว้ว่า “สาวญี่ปุ่นยุคนี้หากเดินมา 10 คนจะต้องทำศัลยกรรมไปแล้ว 6 คน แต่สำหรับสาวเกาหลี เดินมา 10 คน ศัลยกรรมไปแล้ว 9 คน” โดยส่วนมากสาวญี่ปุ่นจะนิยมทำตาสองชั้นและการเสริมจมูก
จีน
ประเทศที่มีประชากรติดอันดับต้นๆของโลกมาโดยตลอด และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่สาวจีนไม่พลาดเลยก็คือ “จำนวนการทำศัลยกรรมของสาวจีน” ซึ่งสาวจีนก็มีความนิยมในการทำศัลยกรรมไม่แตกต่างกับสาวในเอเชียทั่วไปก็คือ สามอันดับแรกที่นิยม “การกรีดตาสองชั้น เสริมจมูก และทำเสริมหน้าอก” โดยส่วนมากสาวจีนมักจะผ่านมีดหมอของประเทศเกาหลี “เนื่องจากผลสำรวจตัวเลขของนักท่องเที่ยวทริปศัลยกรรม มีสาวจีนนำมาเป็นอันดับหนึ่งในทุกๆปี”
บราซิล
นอกจาก “บราซิล” จะขึ้นชื่อเรื่องฟุตบอลแล้วยังขึ้นชื่อเรื่องความงามของสวยละตินอีกด้วย เนื่องจากสาวบราซิลเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญในเรื่องทรวดทรงมากเป็นพิเศษ การทำศัลยกรรมยอดฮิตของประเทศเลยก็คือ “บราซิลเลียน บัท ลิฟท์ (Brazillian Butt Lift) หรือการศัลยกรรมขยายขนาดสะโพกให้เพิ่มมากขึ้น” รวมไปถึง การยกกระชับหน้าท้อง ที่เป็นการตัดชั้นเนื้อเยื่อไขมันและผิวหนังหน้าท้องส่วนเกินออกไป, การดูดไขมัน และการตัดแต่งอวัยเพศให้สวยงาม
สหรัฐอเมริกา
ประเทศมหาอำนาจประเทศนี้เข้าวินมาเป็นอันดับหนึ่ง และด้วยมาตรฐานความเป็นละตินของสาวในประเทศความนิยมในการทำศัลยกรรมก็ไม่แตกต่างกับ บราซิล สักเท่าไรนักโดยการทำศัลยกรรมยอดฮิตเลยก็คือ “การศัลยกรรมเพิ่มไซส์หน้าอกให้อึ๋ม, การดูดไขมัน, โบท็อกซ์ และฟิลเลอร์” อีกทั้งประเทศยังมีนวัตกรรมการแพทย์ที่อาจจะก้าวนำประเทศอื่นในโลกอยู่บ้าง เรียกได้ว่า นักเทคนิคการแพทย์ นักวิทย์ศาสตร์ แพทย์ หรือบุคลากรด้านๆอื่นๆ ระดับหัวกะทิจากทั่วโลก รวมอยู่ในประเทศนี้แล้ว จึงไม่แปลกเลยที่อเมริการจะมีนวัตกรรมหลายๆด้านก้าวนำประเทศอื่น ในเรื่องศัลยกรรมก็เช่นเดียวกัน
ประเทศไทย
ตัวเลขการทำศัลยกรรมของประเทศไทยกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปีและมีแนวโน้มดีกว่าหลายประเทศที่เติบโตพร้อมๆกัน หรืออาจจะดีกว่าประเทศที่เติบโตมาก่อนเราเสียด้วยซ้ำไป ซึ่งวัดได้จาก ฝีมือของศัลยแพทย์ที่มีฝีมือการันตีติดอันดับโลกอยู่หลายต่อหลายคน รวมไปถึงตัวเลขการเดินทางของนักท่องเที่ยวศัลยกรรมก็เยอะขึ้นเพิ่มมากขึ้นในทุกปีเช่นเดียวกัน
นพ.ชลธิศ ศัลยแพทย์มือท็อปอันดับต้นๆของประเทศไทย และโลกได้เคยกล่าวไว้ว่า ถึงแม้ประเทศไทยจะมีนวัตกรรมการแพทย์ที่ก้าวหน้ากว่าหลายประเทศในอาเซียน แต่หากเปรียบเทียบกับตลาดโลกแล้วนั้นนับว่ายังมีจุดบอดอยู่หลายด้านพอสมควรทำให้ประเทศไทยของเราจึงต้องเร่งพัฒนาสิ่งเหล่านี้ก่อนที่จะไปเทียบกับคู่แข่งที่แซงหน้าเราไปหลายปีแล้ว
Reference
http://women.kapook.com/view96371.html
http://www.dek-d.com/lifestyle/1022/
http://jingro.com/th/news/capital-surgery-plastic-korea-of-the-world/
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000013168
Write a comment: