ในโลกที่ทุกอย่างเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสื่อสารและการใช้ชีวิต หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องการแก้ปัญหาสุขภาพอย่าง “การลดความอ้วน” ซึ่งผู้คนส่วนมากก็ต้องการแก้ปัญหานี้ให้ได้อย่างรวดเร็วทันใจไม่แพ้เรื่องไหนๆ ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจหลายคน มองเห็นโอกาสจากปัญหานี้ ก็ต่างยื่นมามือหยิบยื่น “วิธีการแก้ปัญหา” ความอ้วนให้แก่ผู้บริโภคตาดำๆแบบเราๆกันอยู่หลายวิธี และหนึ่งในวิธีสุดแสนจะง่ายและว่ากันว่ามันเห็นผลทันตาก็คือ “การใช้ยาลดความอ้วน”
หากทุกคนลองเข้าเว็บค้นหาคำว่า “ยาลดความอ้วน” คุณจะได้พบกับยาลดความอ้วนนับหมื่นยี่ห้อ ที่โฆษณาสรรพคุณต่างๆนานๆ และเชื่อเหลือเกินว่าหากคุณกำลังประสบปัญหาความอ้วนอยู่นั้น ภาพโฆษณาเหล่านั้นมันช่างน่าดึงดูดเป็นอย่างมาก ถ้าหากว่ามีจำนวนยี่ห้อและตัวยาลดความอ้วนนานาสรรพคุณมากมายขนาดนี้ ทั้งกินแล้วจะลดพุง ลดน่อง ลดสะโพก ลดต้นแขน ฯลฯ กินแล้วน้ำหนักลดลง ผู้บริโภคอย่างเราจะรู้ได้อย่างไรว่าอันไหนดีจริง และไม่เป็นพิษภัยต่อร่างกาย
ก่อนอื่นจะต้องทำความรู้จักว่าอะไรคือ “ยาลดความอ้วน” ที่มีขายกันอยู่ตามท้องตลาดบ้าง ?
ยาลดความอ้วน สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
ยาลดความอ้วนจากสารเคมี
ในประเภทนี้ก็ยังถูกแบ่งได้ออกเป็นอีกหลายประเภทอีกเช่นเดียวกัน ทั้งแบบยาชุด และแบบเดี่ยว สามารถหาได้จากการจัดของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทั้งแบบที่มีขายกันตามอินเตอร์เน็ต โดย ยากลุ่มนี้จะออกฤทธิ์ต่อสมอง จิตและประสาท โดยส่วนมากมักมีผลต้านการอยากอาหาร โดยสารที่ชื่อว่า “เฟนเทอร์มีน และ ธัยรอยด์ฮอร์โมน”
เฟนเทอร์มีน : ยาลดความอยากอาหาร
ธัยรอยด์ฮอร์โมน : เพื่ออัตราการเผาผลาญพลังงานร่างกาย โดยการเร่งการเต้นของหัวใจ
ทั้งหมดนี้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 มีฤทธิ์กระตุ้นประสาทส่วนกลาง ลดความอยากอาหาร (ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) ซึ่งสารในกลุ่มนี้ หากร่างกายได้รับไปในปริมาณมากเกินไปจะมีอาการข้างเคียงที่น่ากลัวพอตัวเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น อาการนอนไม่หลับ กระสนกระวาย ความดันโลหิตสูง หงุดหงิด หัวใจเต้นแรงผิดปกติ และหากได้รับต่อกันเป็นเวลานานมากๆ จะทำให้เกินภาวะทางจิต และเสพติดยาชนิดนี้ได้ (ภาวะคล้ายกับการติดยาเสพติดประเภทอื่นๆ)
ยาประเภทนี้สามารถใช้ลดความอ้วนได้จริงหรือไม่ ?
หากทุกคนได้ศึกษาของมูลของตัวยาประเภทดูกันอย่างครบถ้วน จะทราบได้ว่ายากลุ่มนี้สามารถใช้ในการลดความอ้วนได้จริงแต่
- จะต้องได้รับการควบคุมปริมาณให้อยู่ในจำนวนมีเหมาะสมโดยผ่านแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนจ่ายยาเท่านั้น
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะต้องประเมินจาก ร่างกายของแต่ละคน จากค่าของน้ำหนัก ส่วนสูง อายุ และปัญหาสุขภาพ
- ทางแพทย์จะต้องมีการประเมินและติดตามผลอยู่โดยตลอด
- ผู้ใช้ยาจะต้องทราบถึงผลข้างเคียงและข้อมูลของตัวยาอย่างชัดเจน ฉะนั้นการซื้อยาตัวยาฉนิดมีทานเองอาจจะเกิดความเสี่ยงได้
- ไม่ควรใช้ตัวอย่างประเภทนี้ติดต่อกันนานเกิน 3 เดือน เพราะมีโอกาสที่จะเกิดอาการเสพติดได้
ยาลดความอ้วนจากสมุนไพร
ยาจากสมุนไพร ไทย จีน ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ใช้ยาลดความอ้วน เพราะยาประเภทนี้จะมีทั้งแบบผสมสมุนไพรและสารเคมี และ สมุนไพรเพียงอย่างเดียว โดยอาศัยสรรพคุณจาก ส้มแขก มะขามป้อม หรือ มะนาว ถึงแม้การใช้ตัวยาจากสมุนไพรจะเห็นผลได้ช้ากว่าสารเคมี แต่ปัญหาผลข้างเคียงก็จะพบได้น้อยกว่ามากเลยทีเดียว
หากคุณยังยืนยันว่าตัวเองนั้นต้องการจะใช้ยาลดความอ้วนเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น “แบบสารมีผสม” หรือ “แบบสมุนไพร” ทั้งสองแบบนี้หากจะให้เห็นผลในระยะยาวแล้วละก็ จะต้องทานในปริมาณที่เหมาะสม ไปพร้อมกับ
- การดูแลเรื่องอาหารการกินให้ครบทุกหมู่ และวิตามิน
- การออกกำลังกายสม่ำเสมอ เป็นกิจวัตร
- ไม่กดดันตัวเอง ว่าจะต้องลดได้แค่ไหน เท่าไร ในเวลาที่บีบบังคับจนเกินไป
- เปลี่ยนพฤติกรรมการกินเสียใหม่ ลดน้ำอัดลม ชา กาแฟ(ใส่นม)
- พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่อดนอน
- เปลี่ยนความคิดให้เป็นด้านบวก มากยิ่งขึ้น สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง
- สุดท้ายก็คือเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ให้กลายเป็นนิสัยจริงๆจัง
(ข้อมูลเหล่านี้ผู้เขียนไม่ได้กล่าวพาดพิงผลิตภัณฑ์ใดๆ เป็นเพียงการเสนอข้อมูลและความคิดเห็นส่วนตัวเพียงเท่านั้น)
Reference
http://women.sanook.com/15220/
http://www.thailovehealth.com/care/health-4244.html
http://women.thaiza.com/ความจริงของยาลดน้ำหนักที่คุณอาจไม่รู้/243040/
Write a comment: