ครัวไทย ครัวยาระดับโลก

รู้กันหรือไม่ ! สโลแกน “เมืองไทยครัวโลก” ที่เราโปรโมทตัวเองสู่สากลโลกนั้น นานาประเทศทั่วโลกต่างอิจฉาประเทศไทยของเรา  ที่ประเทศไทยของเรานี้ตั้งอยู่ในทำเลทอง ของการเป็นแหล่งผลิตของสุดยอดวัตถุสำหรับประกอบอาหาร แน่นอนว่า และมากกว่าครึ่งของวัตถุที่บ้านเรานิยมนำมาประกอบอาหาร ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัว ที่สามารถรักษาและป้องกัน โรคต่างๆ นานาๆ ได้อย่างเหลือเชื่อและอาจจะต้องเปลี่ยน สโลแกนเป็น “ครัวไทย ครัวยา” ก็ดูน่าสนใจไปอีกแบบ

ชาวตะวันตกต่างผลิตคิดค้นสารเคมีต่างๆ เพื่อนำมาป้องกันและรักษาโรค แต่คนไทยของเรานั้นกลับนำมีอาหารการกินเป็นยาแทนสารเคมีต่างๆ แถมยังเป็นอาหารรสชาติอร่อยอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ต้มยำกุ้ง ยำผักนานาชนิดรสแซ่บ แกงเขียวหวาน หรือ มัสมั่น หลากหลายเมนูที่กระจายไปเป็นที่รู้จักทั่วโลกนี้ ล้วนประกอบจากวัตถุดิบผักสวนครัว รั้วกินได้ที่นิยมปลูกกันไว้ในบ้านเรามีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และประเทศข้างเคียง เช่น จีน อินเดีย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเขมร ก็ใช้พืชสวนครัวในทางเป็นยารักษาอาการของโรคบางอย่างมาช้านานแล้ว

Medego.com จึงหยิบยก มาเล่าสู่กันฟังว่า อาหารที่พวกเราชอบทานในแต่ละมื้อ ในแต่ละเมนูรสชาติอร่อยนั้นแอบแฝงไปด้วยสรรพคุณยาแบบไหนและสามารถป้องกันหรือรักษาโรคใดได้บ้าง ?

เมนูยอดนิยมอย่าง “ต้มยำ”

เครื่องต้มยำเป็นส่วนประกอบ ขิง ข่า ตะไคร้ ซึ่งทั้งสามอย่างคือสุดยอดยารักษาโรค ที่สามารถเป็นสารตั้งต้นของยารักโรคแผนปัจจุบัน หรือ ยาบำรุงสุขภาพที่มีขายกันในปัจจุบัน

ขิงข่า รู้กันดีว่า เป็นส่วนประกอบหลักของแกงเผ็ด ต้มยำ นอกจากจะช่วยเพิ่มความเผ็ดร้อนและดับคาวให้กับอาหารแล้ว ยังมีคุณค่าอาหารสูง ไม่ว่าจะเป็น ฟอสฟอรัส วิตามิน B  วิตามิน  C และกากใยอาหาร

ยังมีสรรพคุณทางยา ที่ช่วยขับลม ขยายหลอดเลือดแก้โรคหอบ โรคหลอดลมอักเสบ และเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ตะไคร้ มักใช้ประกอบอาหารในแกงเผ็ดร้อนต่างๆ เป็นคู่หูกับ ขิงข่า สารอาหา และสรรพคุณก็มีไม่น้อยไปกว่ากัน ทั้งฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามิน  A และ B

สุดยอดสรรพคุณทางยาของ ตะไคร้ ถูกนำไปใช้ประโยชน์กับยาแผนปัจจุบันอยู่ไม่น้อย ผ่านการสกัดเย็นและร้อน เช่นยาทาสำหรับแก้ปวด ปวดเมื่อย ข้อเท้าแพลง ขัดยอก หรือจะเป็นการรักษาภายในที่เกี่ยวกับการขับถ่าย และการย่อยอาหาร รวมไปถึงระบบหมุนเวียนของกลไกภายในร่างกาย นอกจากนี้ ที่กำลังมาแรงตอนนี้ก็คือ การนำไปช่วยรักษาอาการตกขาวของผู้หญิงกันอีกด้วย

โดยรวมแล้ว เมนูต้มยำยังประกอบด้วยยาอีกหลายชนิดกันเลย ไม่ว่าจะเป็นพริก มะนาว และผักเคียงต่างๆ ทั้งความเผ็ดร้อนของเมนูเด็ดถ้วยนี้ ยังช่วยให้ระบบทางเดินหายใจคล่องขึ้นอีกด้วย จะเรียกได้ว่า 1 เมนู สามารถเป็นยาครอบจักวาลก็ไม่ผิด

เมนูจานด่วน “ผัดกระเพรา”

พระเอกของจานนี้ก็คือ “ใบกระเพรา” เป็นใบที่จะพบเห็นในเมนูเผ็ดร้อนอีกเช่นกัน แต่มักจะเป็นจานผัด นิยมนำไปผัดคูกับหมู ไก่ หรือ อาหารทะเล ถึงคุณค่าทางอาหารและกากใย อาจจะไม่เท่าผักชนิดอื่นๆ แต่สรรพคุณทางยากลับมามากมาย

สรรพคุณทางยา ของใบกระเพรา มีประโยชน์กับการแพทย์ในปัจจุบันเยอะมากทั้ง ประโยชน์ในการใช้เป็นตัวยาระงับเชื้อ อักเสบ ทั้งในร่างกายและระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะโรคไซนัสอักเสบ แต่มีข้อเสียตรงที่ หากนำมาทานสดอาจจะมีกลิ่นเหม็นเขียวอยู่บ้าง จึงนิยมนำมาสกัดกันมากกว่า

ขาดไม่ได้เลยในการปรุงรสก็คือ “พริก”ใน แทบทุกเมนูของบ้านเราจะมีรสชาติจัดจ้าน ไม่ใช่เพียงแต่ผัดกระเพราเท่านั้น

คนนิยมกินอาหารเผ็ด จะห่างไกลอยู่ร้ายโรคเลย พริกมีคุณค่าทางอาหารและเป็นสารตั้งต้นของวิตามิน A ซึ่งช่วยบำรุงสารตา อีกทั้งในการกินพริกสด ยังได้รับ วิตามินซีสูงมากเลยทีเดียว

รสชาติเผ็ดร้อน ของพริกยังช่วยขยายหลอดลม และ รักษาอาการหอบหืดได้เป็นอย่างดี

“นอกจากสรรพคุณเจ้าประจำจากความเผ็ดร้อนของพริกแล้ว พริกยังมีคุณสมบัติพิเศษที่น่าสนใจมาก ในการช่วยลดความเสี่ยงป้องกันโรคมะเร็ง และ โรคความดัน พริกเม็ดจิ๋ว แต่สรรพคุณไม่จิ๋วเลยใช่ไหมล่ะ”

ความอร่อยระดับ 5 ดาว ของเอกลักษณ์ด้านรสชาติ เปรี้ยว หวาน เผ็ด และด้วยสรรพคุณของอาหารไทย ที่พวกเรา Medego.com ยกตัวอย่างมานั้นเอง ทำให้ ประชากรโลกต่างหลงใหลในอาหารไทย เช่นในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่หลงใหลในอาหารไทยถึงขั้นค้นคว้าถึงประโยชน์ของพืชสวนครัวบ้านเราอย่างจริงจัง เพื่อนำไปใช้เป็นยารักษาโรค แทนสารเคมีที่อาจมีผลตกค้างในร่างกายได้  ฉะนั้นคนไทยอย่างเราเราก็ควรจะหันกลับมาให้ความสนใจในอาหารที่ประโยชน์  เพื่อป้องกันโรคร้ายต่างๆ ก่อนที่โรคเหล่านั้นจะเข้ามาคุกคามร่างกายของเรา

ขอบคุณ Reference Information

www.healthcarethai.com

infothaifood.wordpress.com

www.medicthai.com

ขอบคุณรูปภาพประกอบ

www.wongnai.com